สังคมวิถีใหม่กับบัตรเอทีเอ็มชิปการ์ด เพื่อความปลอดภัยด้านธุรกรรม 2567
ปัจจุบันความสะดวกด้านการเงินถือเป็นโลกแห่งการก้าวสู่วงการดิจิตอลที่ไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็ล้วนแต่ต้องใช้บัตรหรือใช้เพียงแอปพริเคชันเท่านั้น ก็สามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก ไม่ต้องเสียเวลาทำธุรกรรมด้วยเอกสารยุ่งยากในการฝากเงิน หรือถอนเงินผ่านทางธนาคารโดยตรงด้วยสมุดบัญชี หรือต้องใช้ลายนิ้วมือมายืนยันตัวตนที่สาขาธนาคารเหมือนสมัยก่อนอีกต่อไป ซึ่งลักษณะของบัตรที่สามารถทำธุรกรรมได้ก็จะเป็นบัตรเอทีเอ็ม ( หรือจะเรียกบัตรเดบิตออนไลน์ ) บัตรกดเงินสด บัตรเครดิต ซึ่งก็จะมีความแตกต่างกันในเรื่องจองวัตถุประสงค์ในการใช้นั้นเอง
โดยปัจจุบันทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย และสถาบันการเงินก็ได้ออกนโยบายเพื่อในประชาชนคนไทยทุกคนเปลี่ยนมาทำบัตร ATM ใหม่ ซึ่งลักษณะของบัตรเอทีเอ็มจากเดิมที่จะเป็นบัตรปกติเป็นแถบแม่เหล็กที่ให้ตู้ ATM อ่านรหัสเท่านั้น เปลี่ยนบัตร ATM มาเป็นรูปแบบบัตร ATM แบบแม่เหล็กแบบมีชิปการ์ดติดด้วยเทน โดยธนาคารเองก็จะเรียกลักษณะของบัตรเดบิต คือ บัตรเอทีเอ็มรูปแบบใหม่นี้ว่าบัตรเดบิต เป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมด้านการเงินให้มีมากขึ้น ซึ่งหลายคนก็อาจจะยังสงสัยว่าแล้วบัตร ATM แถบแม่เหล็กเป็นแบบไหน และทำไมต้องเป็นแบบบัตรเอทีเอ็มที่มีบัตรชิปการ์ดด้วย
เปลี่ยนบัตร ATM ใช้อะไรบ้าง
สำหรับผู้ที่ต้องการจะทำบัตร ATM ใหม่ จะต้องไปติดต่อเจ้าของสาขาธนาคารที่เป็นเจ้าของบัตรดังกล่าว ได้ทุกสาขา และจะต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้
-
- สมุดบัญชีธนาคาร
- บัตร ATM หรือบัตรเดบิต ใบเดิมที่ถืออยู่
ความสำคัญและข้อบังคับของบัตรเอทีเอ็ม
- ผู้ใช้งานและถือบัตร ATM ทุกคนจะต้องมีการทำบัตร ATM ใหม่ เพราะถือเป็นข้อบังคับจากธนาคารแห่งประเทศไทย โดยจะต้องเปลี่ยนบัตรเอทีเอ็มภายในวันที่ 15 ม.ค. 63 หากเลยกำหนดดังกล่าวนี้ บัตร ATMรูปแบบเก่าจะใช้งานเพื่อกดตู้ ATM ไม่ได้แล้ว โดยที่หากเปลี่ยนภายในกำหนดก็จะไม่มีค่าธรรมเนียมแต่อย่างใด ซึ่งหากเปลี่ยนบัตรภายหลังจากนี้ก็จะขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินแห่งนั้น ๆ ที่จะกำหนดค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนบัตร ATM
อย่างไรก็ตามบัตรเอทีเอ็มรูปแบบใหม่ถือเป็นความปลอดภัยด้านทรัพย์สินของผู้ฝากเงินเอง ซึ่งจะป้องกันด้านข้อมูลผู้ใช้งานให้มากขึ้น เมื่อต้องทำธุรกรรมผ่านเครื่องกดเงิน หรือเครื่องรูดบัตร ชิปการ์ดที่อยู่กับบัตรไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดนอนุมัติไว บัตรประชาชนเองก็จะเป็นการเพิ่มความปลอดภัยเพื่อช่วยยืนยันตัวตนผู้ใช้งานได้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้การใช้งานบัตรแนวใหม่นี้จะสามารถใช้งานได้ทั่วโลก ซึ่งก็จะขึ้นอยู่แค่ประเภทของบัตรเท่านั้นว่าเป็นการใช้งานผ่านบริการใด เช่น VISA, Mastercard เป็นต้น
